
ก่อนสายเกินแก้! เริ่มวันนี้ “วิธีรับมือฝ้ากระ”
ผิวสาวขาวสวย ใครๆ ก็ใฝ่ฝัน หน้าใส หน้าขาว ผิวละเอียด สวยเด้งเปล๊งๆ ใครที่พกมาด้วยแต่เกิด ก็สบายหน่อยแต่ใครที่แม่ให้มาไม่ได้ดั่งใจก็คงต้องใช้ เทคนิคต่างๆ เข้าช่วย แต่จะทำให้้ถูก และมีประสิทธิภาพที่สุด Triple K จึงไม่พลาดที่จะเอาเทคนิคเพื่อผิวขาวดีๆ แบบสาวญี่ปุ่น มาฝากกันค่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สวัสดีค่ะ เวลาที่ส่องกระจก มีใครเคยแอบนึกเล่นๆ เหมือนกันบ้างว่า “ถ้ารอยฝ้าหรือรอยกระตรงนี้หายไป ผิวเราคงจะสวยกว่านี้แน่ๆ~?”
หลายคนทั้งๆ ที่ตอนวัยรุ่น ถึงจะโดนแดดยังไงผิวก็ยังสวยใส แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ พออายุย่างเข้า 20 กว่าๆ รอยฝ้ากระที่สะสมมาก็จะมาพร้อมกันมากมายมาแบบไม่ทันตั้งตัว
หญิงญี่ปุ่นไม่ทราบอายุและไม่สนใจเพราะเธอว่ามันต้องวัดกันที่อายุผิว!!เจ้าของมุมความงามที่งานอดิเรกนอกจากมาเมืองไทยก็คือการเดินตรวจตามเคาเตอร์เครื่องสำอางในห้างทั่วญี่ปุ่น ลามไปถึงร้านชื่อดังอย่าง MatsumotoKiyoshi ศึกษาการดูแลผิวอย่างจริงจังมีเป้าหมายสูงสุดคือการย้อนอายุผิวให้นุ่มใสใกล้กับเด็กทารก!
ใครที่คิดว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องดูแลอะไรมากเป็นพิเศษ ซัก 5 ปีผ่านไป จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว ที่เห็นแล้วอยากจะร้องไห้ค่ะ ดังนั้นใครที่ยังทัน เริ่มวันนี้ยังไม่สายไป มารู้จักรอยกระฝ้าของตัวเองแล้วหาวิธีการดูแลที่ถูกต้องกันค่ะ
รอยกระฝ้าจากแสงแดด
รอยกระหรือฝ้าที่สาวๆ ในแถบเอเชียมักจะเป็นกันก็คือ รอยกระฝ้าจากแสงแดด ที่เกิดจากการเปลี่ยนสีจนฝังลึกของเม็ดสีในชั้นผิว ทำให้ผิวในส่วนนั้นเกิดสีที่เข้มขึ้นกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากเมื่อผิวหนังถูกแสงแดดหรือรังสียูวี melanocyte หรือเซลล์เม็ดสีเมลานินก็จะเกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินในบริเวณนั้นๆ ขึ้น เพื่อปกป้องเซลล์ผิวเอาไว้ โดยปกติเมลานินจะถูกส่งไปที่ผิวชั้นนอกของเซลล์และถูกผลัดออกไปพร้อมๆ กับการผลัดเซลล์ผิว แต่ถ้าผิวถูกแสงแดดมากๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้เมลานินเพิ่มมากขึ้นหรือแม้แต่ความเครียดที่ทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายผิดปกติไป ก็จะทำให้เม็ดสีเมลานินนั้นไม่ถูกผลัดออกไปและสะสมกันอยู่จนทำให้เกิดเป็นรอยฝ้าสีเข้มจนมองเห็นเป็นรอยได้ชัดเจน
สาเหตุของฝ้าและกระไม่ได้มาจากแสงแดดเท่านั้น นอกจากการระวังแสงแดดแล้ว รอยกระฝ้ายังมีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ลดลง แสงแดดจะทำให้ภายในผิวหนังเกิดการ Oxidation และกลายเป็นรอยฝ้าหรือกระ ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้นและความสามารถในการต่อต้านอนุลมูลอิสระของร่างกายลดลงทั้งรอยฝ้ากระและความเหี่ยวย่นก็จะเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่ากระฝ้าจะมีหลายแบบ ลองไปจัดประเภทกันค่ะ คนไทยมีรอยกระฝ้าแบบไหนมากที่สุดคะ?
ประเภทของรอยกระฝ้า ที่ญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทของรอยฝ้ากระเป็น 3 ประเภท โดยดูจากทั้งสีสัน รูปร่าง จุดที่ขึ้น แล้วก็วิธีการที่กระจายไปบนผิวของเรา ซึ่งบางทีในคนคนเดียวกันอาจจะมีฝ้ากระหลายๆ ประเภทรวมกันอยู่ก็ได้ค่ะ
ประเภทของฝ้ากระ
ลักษณะ
สาเหตุหลัก
เริ่มชัดเจนเมื่ออายุ
กระแดด(
日光性黒子)รวมทั้งแบบที่คล้ายไฝสีดำๆ ที่ขึ้นกับคนแก่
เป็นกระฝ้าที่ขึ้นมากที่สุดบริเวณใบหน้าและที่หลัง เป็นกระสีดำๆที่มองเห็นขอบได้ชัดเจน
แสงแดด รังสียูวี
เริ่มเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เข้าวัยกลางคนแต่บางคนก็เริ่มมีตั้งแต่วัยรุ่น
กระกรร
มพันธุ์ (ソバカス)กระที่ขึ้นบริเวณหน้าผากและจมูกเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 2-3 mmส่วนใหญ่มักจะขึ้นมาพร้อมกันจำนวนมาก
พันธุกรรม
เริ่มเห็นชัดเมื่อเข้าวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 10 ขวบเป็นต้นไป
รอยคราบกระ(カンパン)

กระที่ขึ้นเป็นแนวตามโครงของใบหน้าแบบสมมาตรกันทั้งสองข้าง บางครั้งก็ขึ้นที่หน้าผากและรอบๆ ริมฝีปากด้วย
เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยเลเซอร์เพราะเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย
มักจะเกิดตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปหรือคนที่เริ่มเข้าวัยทอง ไม่ค่อยจะเป็นในช่วงอายุ 20 แต่อาจเกิดได้ในช่วงที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างการรักษาโรคโดยใช้ฮอร์โมน
มาดูแลรอยกระฝ้าด้วยตัวเองกัน
Point 1. ห้ามลืมปกป้องผิวจากรังสี UV
รังสียูวีมีพลังมากกว่าที่หลายคนคิดสามารถทะลุผ่านหน้าต่างหรือ กลุ่มเมฆแม้ในวันที่มืดครื้มไม่มีแดด ดังนั้นคอยป้องกันผิวไม่ให้ต้องรับภาระจากรังสียูวีมากเกินไปด้วยการทาครีมกันแดด ถ้าต้องออกข้างนอก อย่าลืมร่มหรือหมวก หรือปกป้องผิวบริเวณที่อ่อนบางอย่างดวงตาด้วยแว่นตากันแดด

กระที่ขึ้นเป็นแนวตามโครงของใบหน้าแบบสมมาตรกันทั้งสองข้าง บางครั้งก็ขึ้นที่หน้าผากและรอบๆ ริมฝีปากด้วย
เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยเลเซอร์เพราะเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย
มักจะเกิดตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปหรือคนที่เริ่มเข้าวัยทอง ไม่ค่อยจะเป็นในช่วงอายุ 20 แต่อาจเกิดได้ในช่วงที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างการรักษาโรคโดยใช้ฮอร์โมน
มาดูแลรอยกระฝ้าด้วยตัวเองกัน
Point 1. ห้ามลืมปกป้องผิวจากรังสี UV
รังสียูวีมีพลังมากกว่าที่หลายคนคิดสามารถทะลุผ่านหน้าต่างหรือ กลุ่มเมฆแม้ในวันที่มืดครื้มไม่มีแดด ดังนั้นคอยป้องกันผิวไม่ให้ต้องรับภาระจากรังสียูวีมากเกินไปด้วยการทาครีมกันแดด ถ้าต้องออกข้างนอก อย่าลืมร่มหรือหมวก หรือปกป้องผิวบริเวณที่อ่อนบางอย่างดวงตาด้วยแว่นตากันแดด
Point 2. ป้องกันไม่ให้ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายลดลง
สิ่งสำคัญก็คือการกินอาหารให้สมดุล และ ใช้ชีวิตประจำวันอย่างถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงความเครียด บุหรี่ หรือ แอลกอฮอล์ที่จะเร่งให้การเกิด Oxidation เร็วขึ้น
Point 3. เร่งการผลัดผิว
เพื่อเร่งให้เซลล์ผิวเก่าๆที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มถูกกำจัดออกไป ควรจะล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าที่มีฟองมากๆ เพื่อกำจัดเซลล์และสิ่งสกปรกออกต่างๆ ที่สะสมออกไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนั้นการนวดหน้าอย่างเบามือ เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนก็เป็นอีกทางที่ช่วยได้
Point 4. บำรุงผิวด้วยเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมที่ช่วยเรื่อง Whitening
การดูแล บำรุงผิวตั้งแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญมาก อย่าคิดว่ายังอายุน้อย ไม่ต้องเริ่มดูแลก็ได้ ลองเปรียบเทียบคนที่ดูแลบำรุงแต่เนิ่นๆ อย่างต่อเนื่อง กับคนที่ไม่ได้บำรุงจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่เครื่องสำอางหรืออาหารเสริมเหล่านี้มีหลายแบบ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองหาข้อมูลเยอะๆ ดูหลายๆ แบบค่อยเลือกว่าอย่างไหนที่เหมาะกับตัวเอง ข้อสำคัญนั้นอย่าลืมเช็คด้วยว่า รอยฝ้ากระของตัวเองนั้นเป็นแบบไหน ซื้อมาแล้วเมื่อเริ่มใช้ ก็ต้องคอยสังเกตดูว่าเป็นยังไง ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะกับเราก็ควรหยุดใช้ หลายคนเสียดายทนใช้ต่อ กลายเป็นว่าต้องมาตามแก้ไขวุ่นวายกว่าเดิม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * Reference: Book:美肌のひみつ(池田書店) (The Secret of Whitening) http://www.daiichisankyo-hc.co.jp/site_cystina/kind/index.html http://www.chocola.com/product/lineup/bblc.htmlMagazine: DigiMaga (By Matsumoto Kiyoshi)
อ้างอิงจาก http://www.olrepublic.com/


